ข่าวไม้ทั่วโลก

นักลงทุนแห่ลงทุนปลูกป่าเชิงพาณิชย์ เทรนด์ใหม่ของการสร้างผลตอบแทนพร้อมรักษ์โลก


ในขณะที่โลกกำลังตื่นตัวกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาภาวะโลกร้อนและการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ นักลงทุนระดับโลกกลับมองเห็นโอกาสใหม่ที่น่าสนใจ นั่นคือ “การลงทุนในธุรกิจปลูกป่าเชิงพาณิชย์” ซึ่งกำลังกลายเป็นกระแสที่เติบโตอย่างรวดเร็วในหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคลาตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รายงานล่าสุดจาก Global Forestry Investment Index 2025 ระบุว่า ปีที่ผ่านมา มีเงินลงทุนในธุรกิจปลูกป่าและป่าไม้เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นกว่า 45% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยประเทศอย่างบราซิล ชิลี อุรุกวัย และกานา เป็นผู้นำในการดึงดูดเงินทุนจากทั้งภาคเอกชน กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และนักลงทุนที่เน้นเป้าหมาย ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล)

เดิมทีการปลูกป่ามักถูกมองว่าเป็นกิจกรรมด้าน CSR หรือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ปัจจุบันแนวคิดนี้ได้ขยับเข้าสู่มุมมองทางเศรษฐกิจ นักลงทุนเริ่มเห็นว่าพื้นที่ป่าไม้นั้นสามารถสร้างรายได้ระยะยาวจากการเก็บเกี่ยวไม้แปรรูป พลังงานชีวมวล คาร์บอนเครดิต และแม้แต่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

ในหลายประเทศได้มีการพัฒนา “โมเดลปลูกป่าผสม” (Mixed Forest Plantation) ซึ่งปลูกไม้เศรษฐกิจ เช่น ยูคาลิปตัส ตะเคียน หรือสน ร่วมกับพืชท้องถิ่นที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ในระยะสั้น เช่น ไผ่ พริกไทย กาแฟ หรือโกโก้ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยกระจายความเสี่ยง แต่ยังสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในชุมชนควบคู่กับการฟื้นฟูป่าธรรมชาติ

การเติบโตของธุรกิจปลูกป่ายังได้รับแรงหนุนจากเทคโนโลยี เช่น การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อวางแผนปลูกและติดตามการเติบโตของต้นไม้ หรือการใช้โดรนเพื่อใส่ปุ๋ย ตรวจสุขภาพต้นไม้ และสำรวจพื้นที่แบบอัตโนมัติ ทำให้การจัดการป่ามีความแม่นยำและลดต้นทุนลงอย่างมีนัยสำคัญ

ในบางโครงการยังมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อวิเคราะห์พันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับสภาพดินและอากาศเฉพาะพื้นที่ ส่งผลให้ต้นไม้เติบโตได้เร็วและมีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการเห็นผลตอบแทนอย่างมีประสิทธิภาพ

อีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญของการลงทุนปลูกป่า คือการเติบโตของตลาดคาร์บอนเครดิต โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งมีการตั้งราคาคาร์บอนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้การปลูกป่าซึ่งสามารถกักเก็บคาร์บอนได้ กลายเป็นแหล่งรายได้ที่จับต้องได้

บริษัทพลังงานรายใหญ่ รวมถึงสายการบิน และกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการชดเชยการปล่อยคาร์บอนของตน เริ่มหันมาซื้อคาร์บอนเครดิตจากโครงการปลูกป่าที่ได้รับการรับรอง ซึ่งหมายความว่าเจ้าของพื้นที่ป่าไม่จำเป็นต้องตัดไม้เพื่อขาย แต่สามารถสร้างรายได้จากการรักษาป่าให้อยู่ครบถ้วนและยั่งยืน

ตอกย้ำให้เห็นว่า “การปลูกป่า” ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “สินทรัพย์ทางเศรษฐกิจ” ที่ให้ผลตอบแทนได้จริงหากมีการบริหารจัดการที่ดี ผสานเทคโนโลยี และมีความเข้าใจในตลาดโลก

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนอย่างยั่งยืน การปลูกป่าเชิงพาณิชย์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทั้งในแง่ผลตอบแทนและผลกระทบเชิงบวกต่อโลกในระยะยาว

ไม้แผ่นใหญ่ ไม้แผ่นเดียว
หน้าหลักร้านค้า
ไม้แผ่นใหญ่
ไม้แผ่นใหญ่
หน้าหลัก
หน้าหลัก