เกาะนิวกินีตั้งอยู่ในเขตป่าฝนที่ใหญ่เป็นอันดับ 3
ของโลก ช่วยให้โลกหายใจได้ด้วยการดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเปลี่ยนเป็นออกซิเจนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต่างชาติได้เข้าซื้อพื้นที่ป่าจำนวนมากเพื่อขายเครดิตคาร์บอน โดยให้คำมั่นว่าจะปกป้องต้นไม้ที่ไม่เช่นนั้นก็จะตกเป็นเหยื่อของการตัดไม้หรือการแผ้วถางพื้นที่แต่เรื่องอื้อฉาวด้านการบริหารจัดการที่ผิดพลาดหลายครั้งทำให้ปาปัวนิวกินีต้องปิดตลาดคาร์บอน `แบบสมัครใจ` แห่งนี้เป็นการชั่วคราวในเดือนมีนาคม 2022ซิโม คิเลปา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวกับเอเอฟพีว่า เมื่อมีมาตรการคุ้มครองใหม่แล้ว การระงับชั่วคราว 3 ปีนี้ `จะยกเลิกทันที`“ปาปัวนิวกินีกำลังยกระดับการระงับตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ” คิเลปา กล่าวขณะนี้เรามีข้อบังคับเกี่ยวกับตลาดคาร์บอนและ...แนวทางในการบริหารและควบคุมตลาดคาร์บอน”ปาปัวนิวกินีมีความทะเยอทะยานที่จะเป็น `ผู้เล่นหลักในตลาดคาร์บอนระดับนานาชาติ` เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านสภาพอากาศแห่งชาติกล่าวในการบรรยายสรุปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโครงการเครดิตคาร์บอนถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการหยุดยั้งการทำลายป่าฝนที่ร้อนอบอ้าวของปาปัวนิวกินี ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของโลกประมาณร้อยละ 7ก่อนการระงับชั่วคราวในปี 2022 สหภาพแรงงานที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศสามารถลงนามข้อตกลงเครดิตคาร์บอนโดยตรงกับผู้อาวุโสในหมู่บ้านได้โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาจ่ายเงินให้กับเจ้าของที่ดินเพื่อไม่ให้มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเพาะปลูก ขายเพื่อทำเหมือง หรือโค่นและแปรรูปเป็นท่อนไม้ด้วยการปกป้องป่าที่อาจจะหายไป บริษัทเหล่านี้จึงสร้างเครดิตคาร์บอนที่สามารถขายในตลาดต่างประเทศได้

คาวบอยคาร์บอน’
ข้อเสนอบางประการมีขอบเขตมหาศาลมาก โดยโครงการซื้อขายคาร์บอนที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของปาปัวนิวกินีอาจจัดอยู่ในอันดับโครงการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามรายงานของ Carbon Market Watchตลาดคาร์บอนของปาปัวนิวกินียังคงเต็มไปด้วยข้อโต้แย้ง โดยผู้ว่าการระดับภูมิภาครายหนึ่งกล่าวหาว่าบริษัทต่างชาติบางแห่งเป็นเพียง `คาวบอยคาร์บอน` ที่ออกมาหาเงินอย่างรวดเร็วการสืบสวนโดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติออสเตรเลีย ABC อ้างว่าการตัดไม้ยังคงเกิดขึ้นในป่าฝนที่จัดไว้สำหรับเครดิตคาร์บอนและเจ้าของที่ดินบางรายบ่นว่าคำสัญญาอันแสนร่ำรวยจากพันธมิตรต่างชาติของพวกเขาไม่ได้รับการตอบสนองเป็นส่วนใหญ่ความพยายามในการจัดตั้งโครงการส่งผลให้เกิดข้อพิพาทเรื่องที่ดินและการเกิดขึ้นของ `Carbon Cowboys`” ที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลีย Sustineo เขียนไว้โครงการเครดิตคาร์บอนทั่วโลกได้รับผลกระทบจากข้อร้องเรียนคล้ายคลึงกันมากมายไม่มีกฎเกณฑ์ทั่วไปที่ควบคุมการค้าเหล่านี้ และโครงการต่างๆ จำนวนมากถูกกล่าวหาว่าขายเครดิตที่ไม่มีค่าใดๆรัฐบาลมักบังคับให้ผู้ก่อมลพิษจำนวนมากชดเชยการปล่อยมลพิษผ่านโครงการเครดิตคาร์บอนภาคบังคับแต่บริษัทองค์กรการกุศล และบุคคลทั่วไปยังสามารถเลือกซื้อเครดิตบนตลาดคาร์บอนแบบสมัครใจได้อีกด้วยโครงการสมัครใจของปาปัวนิวกินีอยู่ภายใต้กรอบการทำงานระหว่างประเทศที่เรียกว่า REDD หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการตัดไม้ทำลายป่าและการเสื่อมโทรมของป่าในประเทศกำลังพัฒนาปาปัวนิวกินีอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงทวิภาคีซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศสามารถผลิตเครดิตคาร์บอนให้กับนครรัฐสิงคโปร์ได้ในปี 2023 ปาปัวนิวกินีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัท Blue Carbon ซึ่งมีฐานอยู่ในดูไบ ซึ่งได้รับที่ดินจำนวนหนึ่งทั่วแอฟริกาสำหรับเครดิตคาร์บอน