รายงานของ Boise Cascade ระบุว่าผลิตภัณฑ์จากไม้ เช่น ไม้อัด แผ่นไม้ OSB ไม้ประกอบโครงสร้าง (Engineered Wood) และไม้แปรรูปต่าง ๆ มีการเติบโตของยอดขายที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าโครงการก่อสร้างบ้านใหม่และการซ่อมแซมบ้าน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน แข็งแรง และใช้งานได้หลากหลาย
ผลิตภัณฑ์จากไม้ยังเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มสถาปนิกและนักออกแบบภายใน เนื่องจากคุณสมบัติทางธรรมชาติ เช่น ความอบอุ่น ความสวยงาม และความสามารถในการตกแต่งปรับแต่งได้ตามต้องการ Boise Cascade จึงเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองตลาดเฉพาะ เช่น บ้านพักอาศัยที่เน้นวัสดุธรรมชาติ โรงงานผลิตโมดูลาร์ และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่
เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์จากไม้ บริษัทได้ลงทุนเพิ่มเติมในศูนย์กระจายสินค้า การพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการโลจิสติกส์ และเพิ่มกำลังการผลิตในสายผลิตภัณฑ์หลัก เช่น ไม้ประกอบแปรรูปและแผ่นไม้เคลือบผิว
Craig Dawson ซีอีโอของ Boise Cascade กล่าวว่า “แม้ต้นทุนไม้ดิบและปัจจัยด้านพลังงานจะยังคงเป็นความท้าทาย แต่เรายังคงสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์จากไม้คุณภาพสูงสู่ตลาดด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ พร้อมรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับคู่ค้าและลูกค้า”
Boise Cascade ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการจัดหาวัตถุดิบจากป่าไม้ที่มีการจัดการอย่างเหมาะสม โดยได้รับการรับรองจากมาตรฐาน FSC® และ SFI® ทำให้ผลิตภัณฑ์จากไม้ของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ในรายงานไตรมาสนี้ บริษัทได้เน้นว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมไม้นั้นกำลังเปลี่ยนไปสู่การใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เช่น อาคารไม้สูง (mass timber buildings) และโครงการ Smart City ที่เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ
ผลประกอบการไตรมาสแรกของ Boise Cascade เป็นหลักฐานชัดเจนว่าความต้องการในผลิตภัณฑ์จากไม้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง การบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับตลาด เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ Boise Cascade สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมไม้ของสหรัฐอเมริกาได้อย่างมั่นคง
ด้วยทิศทางที่เน้นความยั่งยืน นวัตกรรม และการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในหลากหลายระดับ Boise Cascade จึงเป็นบริษัทที่น่าจับตาอย่างยิ่งในอนาคตของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากไม้ระดับโลก