
ไม้ Tali คือหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่ขึ้นชื่อที่สุดจากทวีปแอฟริกา โดยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “Super Heavy Hardwood” และได้รับการขนานนามว่าเป็นไม้ที่ ทนทานที่สุดในงานโครงสร้างและงานภายนอกของสถาปัตยกรรมดั้งเดิม ทั้งในแอฟริกา ยุโรป และเอเชีย ด้วยค่าความแข็ง แรงอัด และความทนทานต่อปลวก เชื้อรา ความชื้น และสภาพอากาศแบบสุดขั้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไม้ Tali ถูกยกให้เป็น ราชาแห่งงานโครงสร้าง ที่ยืนหยัดผ่านเวลาเป็นร้อยปี

ตำนานของไม้ชนิดนี้ย้อนกลับไปตั้งแต่ ยุคอาณาจักรแอฟริกาตะวันตก (West African Empire) ที่นำ Tali มาใช้สร้าง สะพานโบราณ คานรับน้ำหนัก เสาโครงสร้าง ประตูเมือง และท่าเรือไม้ริมมหาสมุทร หลายแห่งยังคงแข็งแรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน นี่เป็นหลักฐานสำคัญถึงคุณสมบัติที่เหนือชั้นของ Tali จนได้รับการยอมรับในฝั่งยุโรปช่วงยุคอาณานิคม และกลายเป็นวัสดุสำคัญของ งานอาคารคลาสสิก ปราสาท และท่าเรือกองทัพเรือ
ผลลัพธ์คือ ไม้ Tali คุณภาพเกรดสะสม ในตลาดโลกเริ่มขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะ แผ่นใหญ่ ความยาว 3–7 เมตร หนา 8–12 เซนติเมตร และไม่มีตาแตกร้าว ซึ่งนักสะสมและดีไซน์เนอร์เฟอร์นิเจอร์แนว Luxury ให้ความสนใจสูงขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ด้านลายไม้ Tali มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โทน น้ำตาลทองอมส้ม ไม้เนื้อแน่นมาก และมีชั้นลายที่ “สุก” เมื่อเคลือบเงาจะให้ความรู้สึกคล้าย Merbau × Iroko × Teak รวมกัน แต่กลิ่นอายมีความดุดันแบบเดียวกับ ไม้ชนเผ่าในพิธีกรรมแอฟริกาโบราณ จึงทำให้เฟอร์นิเจอร์จากไม้ Tali ให้ความรู้สึก สง่างาม หนักแน่น และแสดงพลังของความเป็นเจ้าของ
ในประเทศไทย ไม้ Tali คุณภาพเกรดสะสมยังมีจำนวนจำกัดมาก เพราะต้องผ่านการคัดเกรด ความชื้น และเอกสารนำเข้าอย่างถูกต้อง ทำให้ อะ-ลัง-การ7891 กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งที่คัดเลือก Tali เกรดสูงสุดจากแหล่งป่าถูกกฎหมาย พร้อมภาพที่ชัดเจน ใบอนุญาต และประวัติแผ่นครบถ้วน เหมาะสำหรับนักสะสมที่มองหาไม้หายากเพื่อเพิ่มมูลค่าในระยะยาว
ไม้ Tali ไม่ใช่แค่ วัสดุก่อสร้าง — แต่คือ งานศิลปะของพลัง ความแข็งแกร่ง และกาลเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่เข้าใจคุณค่าของไม้ที่ “ไม่ได้มีให้ทุกคน แต่มีไว้ให้คนที่คู่ควร”
